1.         เติมพลังใจด้วยกิจกรรมผ่อนคลายหลังเลิกงาน: เมื่อร่างกายและจิตใจรู้สึกเครียด หรือเหนื่อยล้า ลองทำกิจกรรมเบาๆ เพื่อให้จิตใจสงบลง เช่น ฟังเพลงโปรด อ่านหนังสือ เล่นโยคะ นั่งสมาธิ เล่นกับสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ ​

2.         แบ่งเบาภาระในใจด้วยการระบาย: ลองเปิดใจพูดคุยกับคนที่คุณไว้ใจ ไม่ว่าจะเป็น คนรัก พ่อแม่ เพื่อนสนิท หรือพี่น้อง ซึ่งการระบายความในใจนี้จะช่วยให้จิตใจของคุณรู้สึกเบาสบายขึ้น ​

3.         สร้างบรรยากาศที่ใช่ด้วย “การจัดโต๊ะ”: เช่น นำตุ๊กตาตัวโปรด รูปครอบครัว รูปศิลปินที่ชื่นชอบมาวางตกแต่ง หรือเปลี่ยนรูปหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยสิ่งเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มกำลังใจ และทำให้การทำงานไม่น่าเบื่ออีกต่อไป​

4.         สานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน: การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานนั้น จะช่วยให้งานราบรื่น และทำให้มีความสุขกับการทำงานมากยิ่งขึ้น ​

5.         รักษาสมดุลชีวิตให้พอดี: โดยแบ่งเวลาเรื่องงาน และชีวิตส่วนตัวให้พอดี การแบ่งเวลาที่ดีจะช่วยส่งเสริมทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมถึงรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างได้อีกด้วย​

6.         ปรับความคิด ชีวิตเปลี่ยน: ลองปรับความคิดและทัศนคติที่มีต่องานให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างเข้าใจ และลดความเครียดที่เกิดจากความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลได้ ​

7.         ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญเมื่อความเครียดเริ่มรบกวนชีวิต: หากความเครียดเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวิเคราะห์​

            ปัญหา แนะนำวิธีการจัดการที่เหมาะสม โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตได้ที่เบอร์ 1323 ​

กรุงเทพประกันภัย แคร์คุณทุกย่างก้าว​

#BKI #BangkokInsurance #กรุงเทพประกันภัย #กรมสุขภาพจิต #ภาวะซึมเศร้า #โรคซึมเศร้า #แคร์คุณทุกย่างก้าว